ย่างกุ้ง

วันเดย์ทริป


เมืองหลวงเก่าพม่า

อัดแน่นไปด้วยมนต์สเน่ห์





วันที่ 1 กรุงเทพ - ย่างกุ้ง                                                                                                                  ( - L -)

เริ่มต้นการเดินทาง

04.30 น. พร้อมกันที สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคารน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ประตู 6 Thaร Lon Air (SL) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

08.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดยเทียวบิน SL200

หมายเหตุ : เนื่องจากตัวเครื่องเป็นของคณะ เป็นด้วยกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็อคที่นั่งได้

ที่นั่ง อาจจะไม่ติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้นคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน

09.00 น. เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนบาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)

นนัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มีลานอธิษฐาน ซึ่งเป็นจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้รูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคลได้ นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศหากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิรีมงคลแก่ชีวิต พระเจดีได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล องค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิบฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนถึงสามพระองค์ บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆจำนวนมาก และยังมีเพชรชนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชั้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมา เดินชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ภายหลังชาวพม่าช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ดีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่นสีเหลือง,สีน้ำเงิน,สีส้ม,สีแดง เป็นต้น

"ร่วมทำพิธีนำสวดมนต์เสริมบารมี ขอพรแก้ปีซง โดยอาจารย์และผู้ที่มีประสบการณ์ในประเทศพม่า"

12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร "*เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร"

13.00 น. นมังการพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ พระนอนตาหวาน พระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต ซึ่งเป็นพระที่มีความพระที่มีความสวยที่สุดที่ขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ สักการะ พระพุทธรูปองค์ไหญ่ หลวงพ่อหงาทัตจี  หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5ชั้น เป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้แกะสลักทั้งหมด และสักเป็นลวดลายต่างๆจำลองแบบมาจากพระพุทธรู)ทรงเครื่องสมัยยะตะนะโปง

นำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะเทพกระซิบ ซึ่งนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ เมื่อสิ้นชีพไปแล้วกลายเป็นนัต ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมาช้านาน แล้วการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมาก โดยบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้

เดินทางสู่ วันพระหินขาว หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเรียกกันว่าา พระหินอ่อม

พระหินขาวนี้สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 60 ตัน

เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกา โดยยกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึง การไล่ศัตรูแลประทานความเจริญรุ่งเรือง

นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่ บริเวณด้านหลั่งพระพุทธรูปด้วย

สมควรแก่เวลา นำท่านเดิมทางสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง

19.35 น. ออกเดินกางกลับ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยไลอ้อนเอร์ เที่ยวบินที่ SL207

21.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประกันใจมิรู้ลืม

อัตรานี้รวม

อัตรานี้ไม่รวม